ต้นกำเนิดของโฮจิฉะ และความอร่อยกลมกล่อม ที่คุณต้องลอง

hojicha

ใครที่ชื่นชอบชาเขียววันนี้จะต้องไม่พลาดบทความของเราอย่างแน่นอนเพราะเราจะพาคุณไปรู้จักกับโรตีชาที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และความหอมที่ใครได้กลิ่นจะต้องหลงใหลไปดูกันเลยดีกว่าว่า โฮจิฉะจะมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหนและรสชาติจะเป็นอย่างไรไปดูกัน โฮจิฉะ คืออะไร มีต้นกำเนิดจากไหน โฮจิฉะนั้นก็คือชาเขียวต้นเดียวกันกับชาเขียวอื่นๆ แต่เป็นชาเขียว hojicha ที่จะเก็บเกี่ยวในช่วงสุดท้ายของฤดูทำให้เป็นใบชาที่ไม่ใช่ใบชาอ่อนเป็นใบชาที่โตเต็มที่แล้วแล้วจะมีคุณภาพรองลงมาจากชาเขียวที่ใช้ยอดอ่อนในการชงรับประทานแต่คุณสมบัติพิเศษของโฮจิฉะนั่นก็คือจะนำใบชาที่เก็บมานั้นไปผ่านการคั่วจนได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งบางที่จะทำการคั่วไปพร้อมกับกิ่งและก้านก็มีแล้วแต่วิธีคั่วของแต่ละบ้านทำให้ชาโฮจิฉะนั้นมีกลิ่นที่หอมมากกว่าชาตัวอื่นและสีของตัวชาจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ อีกทั้งผงที่ได้จากการคั่วชานั้นยังมีการนำไปใส่ในอาหารและขนมของญี่ปุ่นอีกด้วย.. รสชาติชองโฮจิฉะ เป็นยังไง เมื่อนำไปคั่วแล้วจะมีเอกลักษณ์ในด้านรสชาติกลิ่นและความหอมรวมทั้งปริมาณคาเฟอีนในใบชา hojicha ก็จะมีน้อยกว่าใบชาชนิดอื่นรสชาติก็จะออกหวานไม่ขมและไม่ฝาดอีกด้วยนับได้ว่าเป็นชาที่มีรสชาติดีอีกชนิดหนึ่งที่คนญี่ปุ่นนิยมทานและนิยมใส่ในอาหารชนิดอื่นอีกด้วย ผู้บริโภคกลุ่มไหน ทานได้ การที่โฮจิฉะได้ถูกนำไปคั่วในอุณหภูมิสูงทำให้ปริมาณคาเฟอีนน้อยจึงเป็นชา hojicha ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนแก่ก็สามารถทานได้โดยไม่มีผลข้างเคียงไม่ทำให้ตาค้างหรือนอนไม่หลับแต่จะได้รสชาติของชาไปอย่างเต็มๆ นั่นเอง และในกลุ่มของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและคลอเลสเตอรอลสูงจะสามารถทานได้อย่างไม่ต้องเป็นกังวลโดยต้องทานแบบชงร้อนไม่ใส่น้ำตาลจึงจะได้ประโยชน์อย่างที่สุดที่สำคัญกลิ่นหอมของชาโฮจิฉะเมื่อชงเสร็จแล้วปล่อยไว้ให้เย็นจะยิ่งช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าชาโฮจิฉะจะเป็นชารุ่นสุดท้ายในการเก็บเกี่ยวที่ต้องใช้ทั้งก้านทั้งกิ่งและใบที่โตเต็มที่ในการมาผลิตแต่สรรพคุณก็ไม่ได้น้อยหรือด้อยไปกว่าชาเขียวอ่อนๆ เลยทีเดียวที่สำคัญยังสามารถทานได้ทั้งคนแก่และเด็กไม่ก่อให้เกิดอาการตาค้างเพราะคาเฟอีนที่มีน้อยนั่นเอง ชาโฮจิฉะที่ชาวญี่ปุ่นนิยมทานไม่น้อยไปกว่าการทานชาเขียวมัทฉะหรือชาเขียวแบบอื่นเพราะมีประโยชน์ในตัวของชาเองที่สำคัญยังมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์รสชาติที่ไม่ฝาดออกหวานน้อยๆ ทำให้ได้รับความนิยมในกลุ่มของเด็กและผู้ใหญ่เป็นอย่างมากและนอกจากทานเป็นน้ำชายังมีการนำไปใส่ในขนมหวานหรืออาหารบางชนิดอีกด้วย